กล้อง FUJI FINEPIX ((( 5600 ))) 10 X Optical zoom - 38-380 มม - ((( 5.0 Mega ))) พร้อมระบบป้องกันภาพสั่นไหว ANTI-BLUR ปรับความไวแสงได้ถึง ISO 1600 ระบบมาโครสุดยอด 1 ซม เท่านั้น ออโต้โฟกัส 49 จุดทั่วจอภาพ ปรับออโต้แมลนวลได้ ใช้ถ่าน AA
FUIJFILM FINEPIX S5600 คือกล้องในซีรี่ส์ S รุ่นล่าสุดที่พัฒนาต่อเนื่องมาจากรุ่น S5500 โดยเพิ่มความละเอียดเป็น 5 ล้านพิกเซล พร้อมทั้งนำเทคโนโลยีอันทันสมัยใหม่ล่าสุดของฟูจิมาบรรจุไว้ในระบบการทำงาน ภายในอย่างครบถ้วนแต่ยังคงรูปร่างหน้าตาตัวกล้องไว้ในรูปแบบคล้ายกล้อง SLR ที่ทั้งดูสวยงามและดูทันสมัย บอดี้สีดำล้วนเหมือนเดิม
การออกแบบภายนอก
ฟูจิค่อนข้างจะรักษาเอกลักษณ์ของกล้องในซีรี่ส์นี้ไว้ได้ดีมาก เพราะถ้าลองนำรุ่น S5000, S5500 และรุ่นใหม่ล่าสุดคือ S5600 มาวางเปรียบเทียบกัน จะเห็นว่ารูปร่างโดยรวมแทบจะเหมือนเดิมทุกอย่าง โดยมีการเปลี่ยนแปลงเฉพาะในส่วนปลีกย่อยให้ดูดีขึ้นและใช้งานสะดวกขึ้นเท่านั้น รวมทั้งยังคงผลิตออกมาในบอดี้สีดำสนิทล้วนๆ เพียงสีเดียว เน้นความเป็นกล้องระดับจริงจังที่ดูดีมากๆ ทั้งวัสดุและงานการผลิต
S5600 มีขนาดตัวกล้องที่ไม่ได้เล็กหรือใหญ่ไปกว่ารุ่นก่อนหน้าแต่อย่างใด จุดเด่นที่ดีมากๆ คือกริปจับมีขนาดกำลังเหมาะมือ พร้อมทำส่วนโค้งเว้ารับกับนิ้วมือได้อย่างลงตัว อีกทั้งยังหุ้มยางสายหนังที่ตัวกริปและด้านหลังบางส่วนที่บริเวณของอุ้งมือขวาเมื่อจับถือกล้อง ให้ความรู้สึกในการใช้งานที่ดีและเหนือกว่ากล้องระดับเดียวกันทั่วไปอย่างมาก แต่ทางฝั่งซ้ายทั้งด้านหน้าและด้านหลังได้ตัดยางสายหนังออกบางส่วนช่วยให้ S5600 ดูทันสมัยมากขึ้นรวมไปถึงการทำความสะอาดตัวบอดี้ได้ง่ายขึ้นด้วย
ส่วน ของด้านหน้ามีการปรับโฉมเล็กน้อย แต่ทุกตำแหน่งยังวางไว้เหมือนเดมช่องแสงช่วยหาโฟกัสอยู่ในตำแหน่งใกล้กริ ปจับเหมือนรุ่นก่อน แต่เพิ่มตัวอักษร AF ASSIST บอกให้ทราบ ชื่อด้านหน้าเปลี่ยนมาเป็น FUJIFILM แทนคำว่า FINEPIX พร้อมกับเลื่อนตำแหน่งของช่องไมโครโฟนที่อยู่ทางด้านหน้าฝั่งซ้ายให้สูงขึ้น และมีขนาดใหญ่ขึ้นเพื่อการรับเสียงได้ดีกว่า
ตัวเลนส์ยังคงเป็นเลนส์ซูม 10X ออปติคอล FUJINON ทางยาวโฟกัส 6.3-63 มม. F/3.2-3.5 สว่างน้อยกว่ารุ่น S5500 ที่เป็นเลนส์ F/2.8-3.1 อยู่เล็กน้อย และฟูจิทำครอบกระบอกเลนส์ส่วนหน้าให้หนาขึ้นโดยไม่ต้องติดอแดปเตอร์เหมือนรุ่นก่อนสามารถสวมฟิลเตอร์ได้โดยตรง (ใช้ฟิลเตอร์ขนาด 55 มม. เท่าเดิม) ระบบการซูมและการโฟกัสเป็นแบบ INTERNAL ทั้งหมด ตัวเลนส์มีขนาดคงที่ไม่ว่าจะซูมหรือโฟกัสและตัดวงแหวนยางด้านในออกไป ทำให้กระบอกเลนส์ดูยาวขึ้นกว่ารุ่นเดิม และมีสโลปส่วนด้านในชิดกับบอดี้ทำให้ S5600 ดูมีสไตล์มากขึ้น
ด้านบนเป็นปุ่มชัตเตอร์วางเหนือสันกริปล้อมรอบด้วยสวิทซ์เปิด-ปิด และเข้าโหมดถ่ายภาพกับ PLAYBACK เหมือนเดิม โดยมีปุ่มถ่ายภาพต่อเนื่องและปุ่มชดเชยแสงวางคู่กันถัดลงมาแต่เปลี่ยนรูปแบบปุ่มเป็นรูปทรงแคปซูลแนวตั้ง ถัดเข้ามาเป็นแป้นโหมด ที่ออกแบบแป้นใหม่สวยงามและดูโปรกว่าเดิม การหมุนหาโหมด ทำได้ง่ายและคลิ๊กล็อคแม่นยำน้ำหนักการหมุนกำลังดี ลายนูนรอบแป้นโหมดออกแบบใหม่ดูดีกว่าเดิมมาก และเพิ่มโหมดเข้ามาอีก 2 โหมด คือ ANTI-BLUR และ NATURAL LIGHT ซึ่งเป็น 2 โหมดถ่ายภาพใหม่ที่ฟูจินำมาใช้กับกล้องหลายๆ รุ่นในขณะนี้
ทางฝั่งซ้ายของด้านบนเป็นปุ่มเลือกโหมดโฟกัส AF (ทั้ง C-AF, S-AF) และ MF โดยมีสวิทซ์ล็อคปุ่มเล็กๆ มาให้เหมือนเดิม แต่ได้ตัดปุ่มเปิดแฟลช POP-UP ออกไปเพราะ S5600 แฟลชจะยกตัวขึ้นอัตโนมัติถ้ามีการเลือกโหมดแฟลช พร้อมกับเพิ่มช่องแสดงสถานะอยู่ถัดลงมาด้านหลังจากปุ่มเลือกโหมดแฟลช
ช่องมองภาพทำคล้ายๆ รุ่นเดิมแต่เปลี่ยนยางรองตัวใหม่มีความโค้งมนเข้ากับตัวกล้องมากขึ้น ช่องมองภาพเป็นแบบ EVF ปรับแก้สายตาได้ ด้วยแป้นหมุนเล็กๆ ด้านข้างช่องมองภาพ ถัดลงมาเป็นจอ LCD ขนาดใหญ่ขึ้นกว่ารุ่น S5500 อย่างเห็นได้ชัดคือใช้จอขนาด 1.8 นิ้ว ปิดทับด้วยกระจกป้องกันรอยขีดข่วนอย่างดี ความใสสว่างของจอ LCD ดีมาก เห็นภาพได้ชัดเจนแม้ใช้งานกลางแจ้ง สิ่งที่เปลี่ยนไปนอกจากจอ LCD มีขนาดใหญ่ขึ้นแล้วก็คือฟูจิ ได้ย้ายปุ่ม PHOTO MODE และปุ่มเลือกใช้ EVF/LCD จากที่อยู่ด้านบนจอ LCD ในรุ่น S5500 มาอยู่ทางด้านข้างแทน โดยปุ่ม PHOTO MODE ย้ายมาอยู่ด้านล่างขวาสุด และเปลี่ยนรูปแบบปุ่มมาเป็นวงกลม ส่วนปุ่ม EVF/LCD ย้ายมาอยู่ด้านข้างจอ LCD วางปุ่มอยู่คู่กับปุ่มปรับความสว่างจอภาพแบบรวดเร็ว ส่วนแป้น 4 ทิศทางยังคงเหมือนเดิม พร้อมปุ่ม MENU/OK อยู่ตรงกลางใช้งานได้สะดวก (โดยส่วนตัวผมคิดว่าแป้น 4 ทิศทางมีขนาดเล็กไปนิด ถ้าฟูจิทำได้ใหญ่กว่านี้อีกสักหน่วยจะใช้งานได้คล่องตัวกว่ามาก โดยเฉพาะกับผู้ที่มีนิ้วมือใหญ่) น้ำหนักแป้น 4 ทิศทางนุ่มนวลตอบสนองได้เร็วมาก โดยแป้นทางซ้ายใช้เลือกโหมดมาโคร และแป้นทางขวาใช้เลือกโหมดแฟลชได้ด้วย ส่วนปุ่ม DISP ย้ายจากตำแหน่งบนในรุ่นก่อนมาอยู่ทางด้านล่างในรุ่นนี้
ด้านข้างซ้ายบอดี้ออกแบบได้สวยงามดีมาก มีทั้งช่องใส่การ์ดอยู่ใต้บานพับที่ปิดล็อคได้แน่น ถัดลงมาเป็นช่องเชื่อมต่อต่างๆ คือ AV OUT, USB และ DC-IN เหมือนรุ่นเดิม แบตเตอรี่ใช้ขนาด AA จำนวน 4 ก้อน มีช่องใส่แบตเตอรี่อยู่ทางด้านใต้บอดี้บริเวณกริปจับ ฝาล็อคช่องใส่แบตเตอรี่ออกแบบง่ายๆ แต่ล็อคได้แน่นหนาดี โอกาสเผลอเปิดฝาล็อคโดยไม่ตั้งใจไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ง่ายๆ เพราะต้องออกแรงในการเปิดพอสมควร
โดย รวมของการออกแบบ S5600 รุ่นใหม่นี้แม้จะยังคงรูปลักษณ์คล้ายรุ่น S5500 แต่ก็มีการเปลี่ยนแปลงในรายละเอียดให้ดูลงตัวและสวยงามขึ้นงานการผลิตถือว่า ทำได้ประณีตไม่แพ้รุ่น S5500 วัสดุที่ใช้ดี กริปจับมีขนาดใหญ่ หุ้มยางกันลื่นจับได้เต็มมือและเกาะนิ้วดีมาก จอ LCD มีขนาดใหญ่ขึ้น ดูภาพได้สบายตากว่ารุ่นก่อน ตัวเลนส์ออกแบบมาพร้อมกับครอบกระบอกส่วนหน้าไม่ต้องถอดเข้า-ออกเหมือนรุ่น เดิมจึงใช้งานได้สะดวกกว่าแถมยังเป็นเลนส์ซูมและโฟกัสแบบ INTERNAL แม้ว่าเลนส์จะมีความสว่างน้อยกว่ารุ่นเดิมนิดหน่อย แต่ก็เป็นเลนส์คุณภาพจาก FUJINON ซูมออปติคอล 10X เท่าเดิม
ระบบการทำงาน
1. เซ็นเซอร์, ขนาดไฟล์ภาพ, ไฟล์ฟอร์แมท
S5600 ใช้เซ็นเซอร์ SUPER CCD HR ซึ่งเป็นเจนเนอเรชั่นที่5 เช่นเดียวกับรุ่น S9500 โดยมีขนาดเซ็นเซอร์ 1/2.5 นิ้ว ความละเอียด EFFECTIVE PIXELS 5.0 ล้าน ให้ขนาดไฟล์ภาพใหญ่สุดที่ 2592x1944 พิกเซล หรือ 5M และมีขนาดไฟล์ภาพ 3:2 ซึ่งยังคงเป็นขนาด 5M เช่นกัน แต่ตัดส่วนกว้างของภาพออกเล็กน้อย เพื่อให้ลงตัวกับขนาดภาพปรินท์บนกระดาษ 4x6 นิ้ว และเลือกขนาดไฟล์ภาพรองได้อีก 3 ขนาดจาก 3M, 2M และ 0.5M โดยที่ขนาดไฟล์ภาพ 5M สามารถเลือกระดับคุณภาพในไฟล์ฟอร์แมทได้ 2 ระดับคือ FINE และ NORMAL โดยเป็นการเลือกไปพร้อมกับขนาดไฟล์ภาพคือ 5 MF หรือ 5 MN ส่วนขนาดไฟล์ภาพอื่นๆ ไม่มีระดับคุณภาพให้เลือก นอกจากนี้หากต้องการไฟล์คุณภาพสูงยังสามารถเลือกการบันทึกภาพในแบบ CCD-RAW ได้โดยเข้าไปเลือกจากเมนู SET UP และหากต้องการกลับมาใช้ไฟล์ฟอร์แมท JPEG ก็ต้องเข้าไปเลือก OFF ไฟล์ CCD-RAW ในเมนู SET UP เช่นเดิม ซึ่งฟูจิใช้ออกแบบเช่นนี้กับกล้องรุ่นที่มีไฟล์ CCD-RAW ให้เลือก การเปิดไฟล์ CCD-RAW จะต้องใช้ซอฟท์แวร์ของฟูจิหรือโปรแกรมอื่นๆ ที่สนับสนุนไฟล์ RAW ของ S5600
ความ ไวแสงของซุปเปอร์ CCD ใน S5600 เริ่มต้นที่ ISO64 ซึ่งถือว่าเป็นความไวแสงที่อยู่ในระดับที่ดีเพราะสามารถที่จะใช้งานในกรณี ที่ต้องการผลของความเร็วชัตเตอร์ต่ำได้เช่นการถ่ายภาพน้ำตกเป็นต้นเนื่อง จากว่ากล้องในระดับนี้ส่วนมากจะปรับปรุงรูรับแสงได้แคบสุดไม่มากไปกว่า F/8 หรือหากต้องการใช้ความไวแสงสูงขึ้น S5600 ก็สามารถปรับ ISO ได้อีกถึง 5 ระดับ จาก ISO100-1600 ซึ่งถือว่าปรับความไวแสงได้สูงมากเทียบเท่ากับกล้อง DSLR ชั้นนำเลยทีเดียว ซึ่งทั้งนี้เป็นผลมาจากการใช้เทคโนโลยี RP (REAL PHOTO) ของฟูจินั้นเอง
ในโหมด MOVIE สามารถเลือกขนาดไฟล์ได้ 2 ขนาดคือ 640x480 และ 320x240 โดยมีความเร็วในการบันทึกภาพหรือ FRAME RATE 30 เฟรม/วินาที ทำงานโดยอัตโนมัติ สามารถเลือกระบบวิดีโอได้ทั้ง PAL และ NTSC แต่ขณะบันทึกภาพไม่สามารถปรับซูมภาพได้ บันทึกภาพพร้อมเสียงได้ไม่จำกัดเวลาทั้ง 2 ขนาดไฟล์ในฟอร์แมท AVI สามารถดูภาพผ่าน TV หรือโปรแกรมพื้นฐานบนคอมพิวเตอร์ได้ทันที
2. ระบบประมวลผล RP (REAL PHOTO)
แม้ว่า S5600 จะมาในรูปลักษณ์คล้ายกับรุ่น S5500 แต่ระบบการทำงานภายในได้รับการพัฒนาใหม่หมดโดยทางฟูจิได้นำเทคโนโลยีล่าสุดคือซอฟท์แวร์อัจฉริยะ IMAGE INTELLIGENCE และระบบประมวลผลแบบ RP มาบรรจุไว้ใน S5600 ตัวนี้เช่นเดียวกับกล้องรุ่นสูงกว่าอย่าง S9500 ผลก็คือกล้องสามารถประมวลผลได้อย่างรวดเร็วมากๆ และยังแสดงภาพที่ถ่ายไปแล้วให้ปรากฏบนจอ LCD ได้อย่างทันที แม้ที่ขนาดไฟล์ใหญ่สุด 5M หรือแม้แต่ไฟล์ CCD-RAW หรือแม้แต่เป็นการถ่ายภาพต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังช่วยให้สามารถปรับความไวแสงได้สูงถึง ISO1600 โดยมีการเกิด NOISE ที่ต่ำ และให้สีสันความคมชัดได้ดีใกล้เคียงกับความไวแสงปานกลางทั่วไป
และผลต่อเนื่องจากการปรับความไวแสงได้สูงจึงทำให้ S5600 มีระบบบันทึกภาพใหม่เพิ่มเติมมาอีก 2 โหมด คือโหมด ANTI-BLUR PROGRAM และโหมด NATURAL LIGHT โดยทั้ง 2 โหมดนี้กล้องจะตั้ง ISO ไว้ที่ค่า AUTO เมื่อถ่ายภาพในที่แสงน้อยกล้องจะปรับชิฟท์ความไวแสงให้สูงขึ้นได้สูงสุดถึง ISO800 ผลก็คือได้ความเร็วชัตเตอร์สูงขึ้น จึงแก้ปัญหาภาพเบลอได้ทั้งจากการสั่นไหวของตัวกล้อง โดยผู้ถ่ายหรือวัตถุมีการเคลื่อนที่อีกทั้งยังสามารถใช้ร่วมกับแฟลชได้ในโหมด ANTI-BLUR PROGRAM จึงลดการสั่นไหวอย่างได้ผลกว่า รวมทั้งยังมีผลให้แฟลชมีระยะการทำงานที่ไกลมากขึ้นด้วย ส่วนโหมด NATURAL LIGHT นั้นเป็นโหมดที่ออกแบบมาเพื่อการบันทึกภาพไว้อย่างที่ตาเห็น จึงใช้แฟลชไม่ได้แต่กล้องจะปรับชิฟท์ ISO ให้สูงขึ้นได้ถึง ISO800 เช่นเดียวกับโหมด ANTI-BLUR PROGRAM
3. โหมดและฟังก์ชั่นการทำงาน
ในส่วนของโหมดถ่ายภาพของ S5600 มีครบทั้งแบบ FULL AUTO ไปจนถึง FULL MANUAL จึงตอบสนองและรองรับการใช้งานของนักถ่ายภาพได้ทุกระดับตั้งแต่มือใหม่ มือสมัครเล่น ไปจนถึงกึ่งๆ มือโปร (ในโหมดถ่ายภาพนิ่ง) โดยมีโหมดมาตรฐานครบตั้งแต่ P, A, S, M และโหมดโปรแกรมสำเร็จรูปอีก 6 โหมด คือ AUTO, ภาพบุคคล, ภาพทิวทัศน์, ภาพกลางคืน, NATURAL LIGHT และ ANTI-BLUR PROGRAM
ความเร็วชัตเตอร์ของ S5600 สูงสุดที่ 1/2000 วินาที ต่ำสุด 15 วินาที ในโหมด M และ 3 วินาทีในโหมด S กับโหมดภาพกลางคืน ส่วนโหมดอื่นๆ ที่เหลือความเร็วชัตเตอร์ต่ำสุด 4 วินาที
การเลือกโหมดโฟกัสมีปุ่มโหมดแยกออกมาต่างหากมีให้เลือกทั้ง S-AF, C-AF และ MF โดยโหมด MF ใช้การหาโฟกัสโดยการกดปุ่มชดเชยแสง ร่วมกับการใช้ปุ่มซูมซึ่งใช้งานไม่ยาก และเห็นภาพชัดเบลอได้ดีมาก เมื่อใช้ช่องมองภาพ EVF นอกจากนี้ในโหมด AF ยังสามารถเลือกการใช้กรอบโฟกัสแบบเฉพาะตรงกลางหรือแบบ MULTI พื้นที่กว้างได้หรือจะเลือกแบบ AREA เลื่อนกรอบโฟกัสได้ทั่วจอ LCD ถึง 49 จุด ซึ่งการเลือกกรอบโฟกัสนี้จะทำงานเฉพาะในโหมด S-AF เท่านั้น หากใช้โหมด C-AF กรอบโฟกัสจะถูกกำหนดไว้ที่กรอบกลางเท่านั้น และการโฟกัสจะทำได้อย่างแม่นยำและรวดเร็วขึ้นเมื่อเปิดระบบ HIGH SPEED SHOOTING ซึ่งการโฟกัสแบบต่อเนื่องหรือ C-AF จะเห็นความแตกต่างระหว่างปิดกับเปิดระบบได้อย่างชัดเจน แม้จะใช้งานที่ช่วงซูมเทเลโฟโต้ปลายสุด (360 มม.) รวมไปถึงการใช้งานในโหมดมาโครก็จะโฟกัสได้เร็วยิ่งขึ้นด้วย
โหมดแฟลชมี 6 โหมด ตั้งแต่ออโต้แฟลช, เปิดแฟลช, ปิดแฟลช, SLOW SYNC, แฟลชแก้ตาแดง, SLOW SYNC พร้อมแก้ตาแดง แต่จำนวนโหมดแฟลชจะขึ้นอยู่กับโหมดถ่ายภาพที่ใช้ด้วย ซึ่งจะสามารถเลือกใช้ได้ไม่เท่ากัน และการยกตัวของแฟลชจะเป็นแบบอัตโนมัติโดยไม่มีปุ่มเปิดแฟลชแยกต่างหาก โดยโหมด P เป็นเพียงโหมดเดียวที่สามารถเลือกใช้ได้ทุกโหมดแฟลช
การถ่ายภาพต่อเนื่องมีให้เลือกทั้งแบบ TOP3 หรือต่อเนื่อง 3 ภาพ กับ FINAL3 หรือต่อเนื่องไปเรื่อยๆ แต่กล้องจะบันทึกเฉพาะไฟล์ 3 ภาพสุดท้ายลงการ์ดเท่านั้น และการถ่ายภาพต่อเนื่องแบบปกติความเร็วประมาณ 2 เฟรม/วินาที แต่โหมดถ่ายภาพต่อเนื่องปกตินั้นจะใช้ได้เฉพาะกับโหมดโปรแกรมรูปภาพหรือ SCENE และ AUTO เท่านั้น ส่วนโหมด P, A, S, M จะเลือกการถ่ายภาพต่อเนื่องได้เฉพาะแบบ TOP3 กับ FINAL3 เท่านั้น ซึ่งมีความเร็วในการถ่ายภาพต่อเนื่องสูงกว่า (ประมาณ 2 เฟรม/วินาที) นอกจากนี้ยังมีโหมดถ่ายภาพคร่อมอัตโนมัติ (AUTO BKT) ทำงานเฉพาะโหมด P, A, S, M เป็นการถ่ายภาพคร่อมการเปิดรับแสง 3 ภาพ โดยเลือกความต่างของค่าการเปิดรับแสง 3 ภาพ โดยเลือกความต่างของค่าการเปิดรับแสงได้ 1, 2/3, 1/3
โหมดวัดแสงมี 3 โหมดมาตรฐานคือ MULTI หรือแบ่งพื้นที่หลายส่วน, เฉพาะจุดและเฉลี่ยหรือ AVERAGE ปรับชดเชยแสงได้ 2 EV โหมด SELF-TIMER เลือกหน่วงเวลาได้ 10 หรือ 2 วินาที
WHITE BALANCE (WB) มีให้ครบทั้งออโต้, แสงกลางวัน กลางแจ้ง (FINE), แสงในร่มเงา (SHADE), แสงฟลูออเรสเซนต์ 3 แบบ, แสงทังสเตนหรือ INCANESCENT และ CUSTOM หรือแมนมวล WB ซึ่งทั้งหมดนี้จะต้องเลือกจากเมนู โดยยังสามารถเลือกปรับระดับความคมชัดได้แบบหยาบๆ อีก 3 ระดับคือ HARD, STANDARD และ SOFT
สำหรับปุ่ม PHOTO MODE ใช้เลือกขนาดไฟล์ภาพ, ความไวแสงและ FINEPIX COLOR มีออปชั่นให้เลือก 3 แบบคือ สีมาตรฐาน, สีสดแบบฟิล์มสไลด์ และภาพขาว-ดำ ซึ่งในทางการใช้งานโดยทั่วไปจะใช้เพียงการปรับตั้งหลักๆ นี้เท่านั้น ส่วนปุ่มเพิ่มความสว่างของจอ LCD แบบรวดเร็วนั้น ความสว่างจะเพิ่มขึ้นจากที่เซ็ทไว้แม้ว่าจะเซ็ทความสว่างไว้ที่ระดับสูงสุด เมื่อกดปุ่มปรับความสว่างจอ LCD ความสว่างก็จะเพิ่มมากขึ้นไปอีกโดยสามารถปรับเพิ่มความสว่างได้ทั้งจอ LCD และช่องมองภาพ EVF
4. PLAYBACK (PB) และ SET-UP
รูปแบบการ PB ของ S5600 ใช้รูปแบบใหม่ของฟูจินับตั้งแต่ใช้ในรุ่น F10 เป็นต้นมา โดยสามารถเลือกให้แสดงภาพแบบ THUMBNAIL หรือ MULTI 9 ภาพได้พร้อมแสดงตามวันที่บันทึกภาพ (แสดงภาพเล็ก 11 ภาพ) ช่วยให้การค้นหาภาพทำได้รวดเร็วยิ่งขึ้น การซูมขยายภาพและการเลื่อนภาพ (SCROLL) ทำได้รวดเร็ว พร้อมกับมีจอเล็กสำหรับ NAVIGATE ภาพให้ทราบด้วย ส่วนการแสดงข้อมูลกลับมีไม่มาก ต้องใช้การเข้าไปดูใน EXIF ของภาพเมื่อโอนภาพลงคอมพิวเตอร์เรียบร้อยแล้ว
การลบไฟล์ภาพจะลบโดยใช้ปุ่มลบไฟล์แบบทีละภาพก็ได้ หรือจะเข้าไปเลือกจากเมนูก็ได้เช่นกัน โดยถ้าเลือกจากเมนูจะสามารถเลือกลบภาพทั้งหมดได้ ซึ่งในเมนู PB ของ S5600 มีให้ครบทุกฟังก์ชั่นทั้งการ ROTATE ภาพ, สั่ง DPOF พร้อมวันที่หรือไม่บันทึกวันที่ก็ได้, ล็อคไฟล์ภาพ, แสดงภาพแบบสไลด์โชว์ พร้อมลูกเล่นแบบ FADE-IN, NORMAL, CLOCK และ MULTIPLE รวมทั้งสามารถตัดส่วน (TRIMMING) และบันทึกเสียงลงไฟล์ภาพได้นาน 30 วินาที/ภาพ แต่ไม่สามารถลบเฉพาะไฟล์เสียงได้แต่สามารถทำการบันทึกซ้ำ (RE-REC) ได้ หากต้องการสั่งปรินท์ภาพ (DPOF) แบบรวดเร็วสามารถใช้การกดปุ่ม PHOTO MODE แล้วเลือกจำนวนก๊อปปี้ได้ถึง 99 ก๊อปปี้ต่อภาพ
ในเมนู SET UP แบ่งเป็น 4 หน้าเป็นส่วนที่ใช้ปรับการทำงานพื้นฐานทั่วไปของตัวกล้องรวมทั้งลูกเล่นเล็กๆ น้อยๆ แต่ที่น่าสนใจคือการปรับซูมแบบ RESUME หรือ RESET ซึ่งถ้าปรับเลือกแบบ RESUME กล้องจะจำช่วงซูมสุดท้ายที่ใช้ไว้เมื่อเปิดกล้องทุกครั้ง กล้องจะทำการซูมเลนส์ไปที่ช่วงเดิมก่อนปิดสวิทซ์เสมอ นอกจากนี้ก็มีการเลือกเปิดแสงช่วยหาโฟกัส, ฟอร์แมทการ์ด, เลือกไฟล์ CCD-RAW, ตั้งเวลาและเลือกเวลาแตกต่างหรือ TIME DIFFERENCE ได้ และที่ดีมากกว่ากล้องทุกๆ ยี่ห้อคือมีฟังก์ชั่น DISCHARGE แบตเตอรี่ช่วยคายประจุที่อาจค้างอยู่ในแบตเตอรี่ โดยเฉพาะกับผู้ที่ใช้แบตเตอรี่ชุดนั้นมานานแล้ว ซึ่งจากการทดลองใช้พบว่าแบตเตอรี่ใหม่จะใช้เวลาการ DISCHARGE สั้นกว่าแบตเตอรี่เก่าอย่างเห็นได้ชัดเจน ซึ่งนับว่าเป็นข้อดีและแตกต่างอย่างมากจากกล้องยี่ห้ออื่นๆ ที่ใช้แบตเตอรี่ NI-MH ขนาด AA เหมือนๆ กัน
ราคา: | 3,300 บาท | ต้องการ: | ขาย | ||
ติดต่อ: | นุกูล | อีเมล์: | |||
สภาพ: | มือสอง | จังหวัด: | |||
โทรศัพย์: | 0872863698 | IP Address: | 124.121.212.xx | ||
มือถือ: | - | ||||
ดูสินค้าอื่นๆ | ลงประกาศ | เลื่อนประกาศขึ้น | ลบประกาศ | แก้ไขประกาศ
[ รับจำนอง ขายฝาก บ้าน ที่ดิน ทั่วประเทศ กู้เงินง่าย ได้เงินไว ไม่เช็คแบล็คลิส ]
ประกาศอื่นๆในหมวดหมู่เดียวกัน 20 รายการ (แสดงทั้งหมด)
รูป | รายละเอียด | ราคา | |
2,800 บาท | |||
7,500 | |||
14,900 | |||
4,000 | |||
1,500 | |||
ทุกราคา | |||
250 บาท | |||
22,000 | |||
7,500 | |||
50 บาท | |||
1,900 บาท | |||
20,500 | |||
190 บาท | |||
5,300 บาท | |||
10,500 | |||
30,000 | |||
10,000 | |||
6,000 บาท | |||
10,500 บาท |